ยังไม่มีสินค้าในตระกร้า!
ดูแลรักษาดวงตาอย่างไร…ไม่ให้เสื่อมก่อนวัย
อันที่จริงแล้วการดูแลรักษาสุขภาพสายตา เริ่มต้นจากการใช้สายตาอย่างถูกต้องเหมาะสม การป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา ซึ่งจักษุแพทย์มักจะแบ่งออกเป็นตามช่วงอายุ โดยจะกล่าวถึงโรคตาที่พบบ่อยในแต่ละช่วงอายุนั้น ซึ่งการแพทย์จะแบ่งง่าย ๆ เป็น 3 ช่วงอายุดังนี้
1. ในวัยเด็ก เริ่มตั้งแต่เด็กเล็ก (ก่อนวัยเรียน) และเด็กโตอายุไม่เกิน 10 ขวบ พ่อแม่ควรให้ความสำคัญในการสังเกตดวงตาของลูกว่ามีภาวะตาเขหรือไม่ มีการมองเห็นปกติหรือไม่ ซึ่งเด็กมักจะไม่บอกเราว่าตามัวหรือมองเห็นไม่ชัด อาจมีพฤติกรรมการไม่จ้องหน้าแทน เป็นการบ่งบอกว่าการมองเห็น ไม่ดี หรืออาจมีพฤติกรรมเพื่อพยายามปรับตัวให้มองเห็นชัดขึ้น เช่น การหรี่ตา การเอียงหน้าเอียงศีรษะ ในเด็กวัยเรียนหากมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข เพราะนอกจากจะมีผลโดยตรงกับการเรียนแล้ว ในวัยนี้ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญในการรักษาภาวะตาขี้เกียจจากสาเหตุต่าง ๆ ของเด็กได้อีกด้วย
2.วัยรุ่นและวัยทำงาน ก็ยังจำเป็นต้องใช้สายตา ปัจจุบันพบว่าวัยรุ่นที่มีปัญหาทางด้านสายตามักจะใส่คอนแทคเลนส์ ควรเอาใจใส่ในการรักษาความสะอาด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อหรือการอักเสบอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการสูญเสียดวงตาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรหลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์นอน และไม่ใส่คอนแทคเลนส์เล่นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก แม้น้ำลำคลอง ทะเล หรือสระว่ายน้ำ สิ่งสำคัญอีกประการคือ ในวัยนี้เป็นวัยที่มีความเสี่ยงกับอุบัติเหตุจากการทำงานได้สูง การป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับดวงตามีหลายวิธี โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การสวมแว่นป้องกันเมื่อทำงานที่เสี่ยงกับวัตถุสิ่งแปลกปลอมกระเด็นเข้าตา เช่น การตอกตะปู การเคาะเหล็ก เจียเหล็ก การใช้เครื่องกำบังขณะเชื่อมโลหะ เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันสารเคมีกระเด็นเข้าตาได้ด้วย
นอกจากนี้ การสวมแว่นกันแดดที่มีคุณภาพ ก็สามารถช่วยป้องกันอันตรายจากรังสี UV ต่อดวงตาได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าการสวมแว่นกันแดดจำเป็นเฉพาะผู้ที่ชอบเที่ยวทะเล หรือทำงานในที่แดดจัด ๆ เท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในที่ร่ม รังสี UV ก็สามารถสะท้อนจากผิวน้ำ พื้นผิวของหาดทรายได้ แสงสะท้อนจากพื้นผิววัตถุเหล่านี้เป็นอันตรายต่อผิวกระจกตาดำ นอกจากนี้ แว่นกันแดดยังมีประโยชน์ในการป้องกัน ลม ฝุ่น ควัน ที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาขาวได้อีกด้วย
ดังนั้น ควรเลือกแว่นกันแดดที่มีคุณภาพในการช่วยปกป้องทะนุถนอมสายตาของคุณ เพราะแว่นกันแดดราคาถูกเลนส์ต่าง ๆ จะไม่มีคุณภาพเพียงพอในการปกป้องแสงแดด เมื่อใส่ไปนานๆ อาจะทำให้ตาเมื่อยล้า และปวดแสบตาจนก่อปัญหากับสายตาได้ในที่สุด
3.วัยสูงอายุ เป็นวัยที่เริ่มมีการเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงดวงตาด้วย สำหรับผู้สูงอายุแนะนำให้ตรวจเช็กสุขภาพตาประจำปี เพื่อตรวจวัดระดับสายตาที่เปลี่ยนแปลงจากสายตาสูงอายุ (หรือที่ทั่วไปเรียกว่าสายตายาว แต่อันที่จริงคือสายตายาวที่ระยะใกล้ ซึ่งในต่างประเทศเรียกว่า short arm syndrome) ควรได้รับการตรวจหาโรคต้อกระจก ตรวจเช็กความดันตาและขั้วประสาทตาเพื่อเฝ้าระวังโรคต้อหินและตรวจจอประสาทตา เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดสูง ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการตรวจจอประสาทตาจากจักษุแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ร่วมไปกับการติดตามการรักษาจากอายุรแพทย์